บทความและคำแนะนำ - หน้า 7

เมื่ออุณหภูมิในประเทศไทยพุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน หลายบ้านเริ่มมองหาเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ช่วยคลายร้อนโดยไม่เปลืองไฟมาก หนึ่งในตัวเลือกยอดนิยมก็คือ "พัดลมไอเย็น" ซึ่งมีข้อดีหลายอย่าง แต่ก็มีผลกระทบต่อสุขภาพที่ควรพิจารณา บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจข้อดี ข้อเสีย และข้อควรระวังในการใช้พัดลมไอเย็น เพื่อให้คุณตัดสินใจได้อย่างเหมาะสม

ข้อดีของพัดลมไอเย็น

เย็นสบายกว่าพัดลมทั่วไป

พัดลมไอเย็นทำงานโดยการเป่าลมผ่านแผ่นทำความเย็นที่มีน้ำ ช่วยลดอุณหภูมิของลม ทำให้ลมที่เป่าออกมารู้สึกเย็นกว่าพัดลมธรรมดา เหมาะสำหรับบ้านที่ไม่มีเครื่องปรับอากาศ

ประหยัดไฟกว่าการเปิดแอร์

พัดลมไอเย็นใช้พลังงานน้อยกว่าเครื่องปรับอากาศมาก จึงเหมาะกับการใช้งานต่อเนื่องในเวลากลางวันหรือในพื้นที่ที่ต้องการประหยัดค่าไฟ

ใช้งานง่าย เคลื่อนย้ายสะดวก

ด้วยดีไซน์ที่ติดล้อและมีถังน้ำในตัว พัดลมไอเย็นสามารถเคลื่อนย้ายไปตามจุดต่าง ๆ ได้สะดวก เหมาะสำหรับบ้านที่ต้องการใช้งานหลายห้อง

ช่วยเพิ่มความชื้นในอากาศ

ลมจากพัดลมไอเย็นมีความชื้น ช่วยบรรเทาอาการแห้งของผิวหนังและโพรงจมูก โดยเฉพาะในพื้นที่ที่อากาศแห้ง

ข้อเสียของพัดลมไอเย็น

ไม่เหมาะกับพื้นที่ชื้น

หากพื้นที่มีความชื้นสูง เช่น ฝนตกต่อเนื่อง หรือบริเวณชายฝั่งทะเล พัดลมไอเย็นอาจไม่ให้ความเย็นเท่าที่ควร และอาจทำให้ห้องอับชื้นได้ง่าย

ต้องหมั่นทำความสะอาด

เนื่องจากพัดลมไอเย็นใช้น้ำในการทำงาน จึงเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคหากไม่ทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะแผ่นทำความเย็นและถังเก็บน้ำ

อาจทำให้เกิดภูมิแพ้หรือโรคทางเดินหายใจ

หากมีเชื้อรา หรือฝุ่นละอองสะสมในเครื่อง พัดลมไอเย็นอาจปล่อยลมที่ปนเปื้อนสิ่งสกปรก ทำให้ผู้ใช้ที่มีอาการภูมิแพ้หรือโรคหอบหืดมีอาการกำเริบ

ข้อควรระวังในการใช้งาน

• หมั่นล้างถังน้ำและแผ่นทำความเย็น อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เพื่อป้องกันการสะสมของแบคทีเรียและเชื้อรา
• เปลี่ยนน้ำในถังทุกวัน หรือตามคำแนะนำจากผู้ผลิต
• วางในพื้นที่ระบายอากาศได้ดี ไม่ควรตั้งใกล้ผนังหรือเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้หรือวัสดุไวต่อความชื้น
• ควรมีการเว้นช่วงการใช้งาน ไม่เปิดติดต่อกันทั้งวันทั้งคืน เพื่อถนอมอายุการใช้งานของเครื่อง

พัดลมไอเย็นเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับบ้านที่ต้องการความเย็นสบายแบบประหยัดพลังงาน แต่การใช้งานที่ถูกวิธีและการดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอคือหัวใจสำคัญที่จะช่วยให้คุณและครอบครัวได้รับประโยชน์สูงสุดโดยไม่กระทบต่อสุขภาพ

หากคุณกำลังมองหาพัดลมไอเย็นคุณภาพดี ราคาเป็นมิตร ดำรงค์โฮมพลัส มีให้เลือกหลายรุ่น พร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษ!

📌 เยี่ยมชมสินค้าพัดลมไอเย็น ตามลิ้งค์เว็บไซต์ของทางร้าน https://www.drhome.plus/พัดลมไอเย็น

📌 ดูโปรโมชั่นล่าสุดได้ที่ www.drhome.plus/promotion.php

📞 โทร. 043-761-599

ช้อปได้ง่ายๆหลากหลายช่องทาง

Line | Shopee | Lazada

Written by : ช่างโม เล่าเรื่องบ้าน

ในโลกของการเกษตรที่ต้องแข่งกับเวลา ฤดูกาล และความเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ สิ่งหนึ่งที่เกษตรกรทุกคนต้องเผชิญคือ “การจัดการน้ำ” น้ำคือหัวใจของชีวิตพืชผล น้ำคือเส้นเลือดของแปลงนา น้ำคือเครื่องมือที่หล่อเลี้ยงฟาร์มของคุณให้เติบโตอย่างมั่นคง และเมื่อพูดถึงการสูบน้ำอย่างมืออาชีพ “ท่อพญานาค 5 นิ้ว ยาว 22 ฟุต รุ่นตูด 10 บูชกลาง” จึงกลายเป็นเครื่องมือที่ไม่ใช่แค่ “ควรมี” แต่คือ “ต้องมี” สำหรับเกษตรกรที่คิดไกลและอยากให้งานทุกวันเป็นเรื่องง่าย

หลายคนอาจมองว่าท่อสูบน้ำก็แค่ท่อหนึ่ง แต่แท้จริงแล้ว “พญานาค” รุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อภารกิจเฉพาะ – นั่นคือการสูบน้ำปริมาณมากในเวลาจำกัด ให้แรงดูดแรงดันสูงกว่า และที่สำคัญคือความทนทานต่อการใช้งานหนักกลางแดดกลางฝนในพื้นที่จริง

ความยาว 22 ฟุต ช่วยให้คุณลากท่อลงบ่อได้ลึกโดยไม่ต้องต่อหลายช่วงให้วุ่นวายขนาดหน้าท่อ 5 นิ้ว ควบคู่กับตูด 10 นิ้ว พร้อมบูชกลาง ทำให้การดูดและส่งน้ำเป็นไปอย่างราบรื่น สูบได้ไกลขึ้น แรงขึ้น วัสดุสังกะสีอย่างดี ไม่เป็นสนิมง่าย แข็งแรงต่อทุกสภาพอากาศและที่สำคัญคือ มันใช้งานง่าย ติดตั้งเร็ว เคลื่อนย้ายสะดวก ทำให้คุณทำงานได้ต่อเนื่องไม่สะดุด นี่ไม่ใช่แค่ท่อ แต่คือเครื่องมือที่เปลี่ยน “งานหนักให้เป็นเรื่องง่าย”ช่วยลดต้นทุนเวลา ลดแรงงาน เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการน้ำในไร่ในนามันคือตัวช่วยที่ทำให้เกษตรกรมีเวลาเหลือมากขึ้น มีผลผลิตที่ดีขึ้น และเหนื่อยน้อยลง

ดังนั้นถ้าคุณกำลังมองหาอุปกรณ์สูบน้ำที่คุ้มค่ากับทุกบาทที่จ่ายไป

“ท่อพญานาค 5 นิ้ว x 22 ฟุต ตูด 10 บูชกลาง” จาก ดำรงค์โฮมพลัส คือคำตอบที่ดีที่สุด

📍 หาซื้อได้ที่ร้านดำรงค์โฮมพลัส โกสุมพิสัย

หรือสั่งออนไลน์ได้เลยที่ www.drhome.plus/ท่อสูบน้ำพญานาค

📞 โทรสอบถาม 043-761-599

📱 หรือทัก LINE OA: https://lin.ee/owsFVCn

อย่ารอให้ถึงวันน้ำแล้งแล้วค่อยมองหา “พญานาค” เพราะของดีแบบนี้...ต้องมีไว้ก่อนถึงจะคุ้มครับ!

บทความโดย โบกลางกุลา

💧 ปั๊มน้ำที่เข้าใจชีวิตคนขี้ลืม: HITACHI WT-P200XX

ในแต่ละวัน เราอาจจะลืมหลายเรื่องเล็กๆ น้อยๆ โดยไม่รู้ตัว ลืมปิดไฟ ลืมปิดก๊อก ลืมซื้อของใช้เข้าบ้าน แต่สิ่งหนึ่งที่หลายคนมักลืม และคิดว่าไม่สำคัญ ก็คือ "ลืมดูปั๊มน้ำ" หลายบ้านใช้ชีวิตตามปกติ จนวันที่ “น้ำไม่ไหล” กะทันหัน ถึงได้รู้ว่าปั๊มน้ำมีปัญหา บางครั้งน้ำในถังหมดแต่ไม่รู้ บางครั้งปั๊มน้ำทำงานผิดจังหวะ หรือเสียหายจากการปล่อยให้เดินเครื่องทั้งที่ไม่มีน้ำ สิ่งเล็กๆ เหล่านี้ กลายเป็นต้นเหตุของปัญหาใหญ่ได้

แต่จะดีแค่ไหน... ถ้ามีปั๊มน้ำที่ไม่ต้องคอยดูแล ไม่ต้องคอยเปิด–ปิด ไม่ต้องห่วงว่าน้ำจะหมด หรือปั๊มจะไหม้ นี่แหละครับคือสิ่งที่ HITACHI WT-P200XX ออกแบบมาเพื่อแก้ไข HITACHI WT-P200XX คือปั๊มน้ำแรงดันคงที่ ที่มากกว่าคำว่า "แรง" เพราะมัน "ฉลาด" และ "เข้าใจผู้ใช้งาน" อย่างแท้จริง สิ่งที่ผมประทับใจตั้งแต่ได้สัมผัสคือการทำงานที่ เงียบ และ เสถียร เปิดน้ำกี่จุดก็แรงเท่ากัน ไม่มีอาการสะดุด ไม่มีเสียงดังรบกวน ใช้ในบ้านที่มีเด็กหรือผู้สูงอายุได้อย่างสบายใจ อีกฟีเจอร์ที่ต้องยกนิ้วให้คือระบบ ตัดไฟอัตโนมัติเมื่อน้ำหมด (Thermal Relay) สำหรับบ้านที่ใช้น้ำจากถังหรือแทงค์ ระบบนี้ช่วยป้องกันไม่ให้ปั๊มไหม้ หรือเครื่องเสียจากการเดินเครื่องเปล่า เป็นการป้องกันแบบอัตโนมัติที่หลายคนมองข้าม แต่มีประโยชน์มากในระยะยาว

นอกจากนี้ยังมีระบบอินเวอร์เตอร์ ที่ช่วย ประหยัดไฟ ได้จริง ไม่ใช่แค่โฆษณา เหมาะกับคนที่ใช้หลายจุดในบ้าน เช่น ฝักบัว เครื่องซักผ้า อ่างล้างจาน ฯลฯ ระบบจะปรับการทำงานให้พอดีกับปริมาณน้ำที่ใช้ในแต่ละช่วง ทำให้ใช้ไฟอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

ผมมองว่า HITACHI WT-P200XX ไม่ใช่แค่เครื่องจักร แต่คือผู้ช่วยที่รู้ใจคุณ เหมาะสำหรับบ้านยุคใหม่ที่ต้องการความสะดวกสบาย ไม่ต้องเสียเวลากับเรื่องเล็กๆ ที่อาจกลายเป็นเรื่องใหญ่ในอนาคต ใครที่กำลังมองหาปั๊มน้ำดีๆ สักตัว ที่เชื่อถือได้ ใช้งานง่าย และ “ไม่ต้องคอยดูแล” ผมแนะนำรุ่นนี้เลยครับ แล้วคุณจะรู้ว่าชีวิตที่มีน้ำใช้สม่ำเสมอ แรงดี และไม่ต้องวิ่งดูปั๊มทุกวัน มันสบายแค่ไหน

🛠 หาซื้อได้แล้ววันนี้ที่ ดำรงค์โฮมพลัส

แวะชมสินค้าได้ทุกวัน 08.00 – 17.00 น. หรือช้อปออนไลน์ที่ www.drhome.plus

โทร. 043-761-599 หรือ LINE: https://lin.ee/owsFVCn Facebook : ดำรงค์โฮมพลัส

บทความโดย ช่างโม เล่าเรื่องบ้าน

5 วิธีเลือกกระเบื้องให้บ้านเย็น อยู่สบาย

ประเทศไทยมีอากาศร้อนเกือบตลอดทั้งปี โดยเฉพาะช่วงหน้าร้อนที่อุณหภูมิพุ่งสูงจนทำให้บ้านร้อนอบอ้าว การเลือกวัสดุตกแต่งบ้านจึงมีผลต่อความรู้สึกสบายของผู้อยู่อาศัยเป็นอย่างมาก หนึ่งในวิธีที่ช่วยให้บ้านเย็นขึ้นคือการเลือกใช้ "กระเบื้องปูพื้น" หรือ "กระเบื้องบุผนัง" ที่เหมาะสม วันนี้ ดำรงค์โฮมพลัส ขอแนะนำ 5 วิธีเลือกกระเบื้องให้บ้านเย็น อยู่สบายตลอดปี

1. เลือกกระเบื้องสีอ่อน สะท้อนความร้อน

กระเบื้องสีอ่อน เช่น สีขาว ครีม เทาอ่อน หรือพาสเทล มีคุณสมบัติสะท้อนแสงแดดได้ดีกว่ากระเบื้องสีเข้ม ช่วยลดการดูดซับความร้อน เหมาะสำหรับปูพื้นภายในบ้าน รวมถึงบริเวณที่โดนแดดจัด เช่น ระเบียง หรือเฉลียงหน้าบ้าน

2. เน้นกระเบื้องผิวด้าน ลดการอมความร้อน

กระเบื้องผิวมันแม้จะดูสวยแต่มีแนวโน้มจะอมความร้อนมากกว่ากระเบื้องผิวด้าน หากต้องการบ้านที่เย็นสบายควรเลือกใช้กระเบื้องผิวด้าน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ไม่มีเครื่องปรับอากาศ เช่น ห้องโถง ห้องครัว หรือห้องน้ำ

3. เลือกกระเบื้องขนาดใหญ่ ช่วยลดรอยต่อ

กระเบื้องแผ่นใหญ่จะมีรอยต่อน้อยกว่ากระเบื้องแผ่นเล็ก ช่วยลดปัญหาความร้อนสะสมตามแนวร่องยาแนว อีกทั้งยังให้ลุคที่ทันสมัย เรียบหรู เหมาะกับบ้านสไตล์โมเดิร์นหรือมินิมอล

4. ใช้กระเบื้องเซรามิก หรือพอร์ซเลน ที่นำความร้อนได้ดี

กระเบื้องเซรามิกและพอร์ซเลนมีคุณสมบัตินำความร้อนได้ดี ช่วยถ่ายเทความร้อนออกจากตัวบ้าน โดยเฉพาะบ้านที่ติดตั้งหลังคากันความร้อนร่วมด้วย จะยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาอุณหภูมิภายในบ้านให้เย็นสบายขึ้น

5. พิจารณาความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่

ห้องต่าง ๆ ในบ้านควรมีกระเบื้องที่เหมาะสมกับการใช้งาน เช่น ห้องนอนควรใช้กระเบื้องที่ให้สัมผัสเย็นสบายเท้า ห้องน้ำควรเลือกกระเบื้องกันลื่นแต่ไม่อมความร้อน ส่วนภายนอกบ้านควรใช้กระเบื้องที่ทนแดด ทนฝน และสะท้อนแสงได้ดี

เลือกกระเบื้องบ้านเย็น ต้องเลือกที่ ศูนย์การค้าดำรงค์โฮมพลัส

ที่ ศูนย์การค้าดำรงค์โฮมพลัส เรามีกระเบื้องให้เลือกหลากหลายจากแบรนด์ชั้นนำ พร้อมทีมงานที่ให้คำปรึกษาเรื่องการออกแบบและเลือกใช้วัสดุอย่างเหมาะสม ครบ จบในที่เดียวที่ โกสุมพิสัย มหาสารคาม

พบกับ Cotto Studio ที่เดียวในจังหวัดมหาสารคาม ที่ดำรงค์ โฮมพลัส

จบปัญหาเรื่องงานออกแบบ พร้อมให้คำปรึกษาในการเลือกใช้สินค้ากระเบื้องให้เหมาะสมกับทุกความต้องการของคุณ

ให้ ดำรงค์โฮมพลัส 3D Design Cotto Studio

ช่วยสร้างสรรค์มุมโปรดในบ้านของคุณ

🔘 พบกันที่...ศูนย์การค้า ดำรงค์ โฮมพลัส อำเภอโกสุมพิสัย มหาสารคาม

🔻 บริการออกแบบ โดย Creative Designer

🔻 มีกระเบื้องสุขภัณฑ์ หลากหลาย ให้เลือกกว่า 1,000 รายการ

แวะชมสินค้าได้ทุกวัน 08.00 – 17.00 น. หรือช้อปออนไลน์ที่ www.drhome.plus

โทร. 043-761-599 หรือ LINE: https://lin.ee/owsFVCn Facebook : ดำรงค์โฮมพลัส

5 อุปกรณ์ไฟฟ้าในบ้านที่ควรเปลี่ยนก่อนถึงหน้าฝน

เพื่อความปลอดภัย ป้องกันไฟช็อต และใช้งานไฟฟ้าได้อย่างมั่นใจ เมื่อฤดูฝนมาถึง สิ่งที่มากับสายฝนไม่ใช่แค่ความเย็นฉ่ำ แต่ยังมาพร้อมกับ “ความเสี่ยง” ที่แฝงอยู่ในทุกจุดของบ้าน โดยเฉพาะระบบไฟฟ้า ความชื้นและน้ำฝนอาจเล็ดลอดเข้าสู่สายไฟ ปลั๊ก หรืออุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย ซึ่งนำไปสู่ปัญหาอันตรายอย่าง ไฟฟ้ารั่ว ไฟดูด ไฟช็อต หรือแม้แต่อัคคีภัยที่เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร การตรวจสอบและเปลี่ยนอุปกรณ์ไฟฟ้าที่เสื่อมสภาพจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะ 5 รายการสำคัญที่ทุกบ้านควรเช็กให้มั่นใจก่อนที่ฝนจะตกลงมาอย่างไม่ทันตั้งตัว

1. ปลั๊กพ่วงและเต้ารับที่เก่า/ชำรุด

ปลั๊กหลวม เต้ารับบิ่น เสี่ยงต่อการเกิดประกายไฟมากขึ้นในสภาพอากาศชื้น แนะนำให้เปลี่ยนเป็นปลั๊กพ่วงที่มีมาตรฐาน มอก. พร้อมสวิตช์ตัดไฟ และใช้เต้ารับแบบกันน้ำในพื้นที่เปียก

2. เบรกเกอร์ไฟฟ้า (Main Breaker / ELCB)

เบรกเกอร์เก่าหลายรุ่นไม่สามารถป้องกันไฟรั่วได้ แนะนำให้อัปเกรดเป็นเบรกเกอร์ ELCB หรือ RCBO ซึ่งจะตัดไฟทันทีเมื่อพบความผิดปกติ ช่วยป้องกันไฟดูดได้แม้เพียงกระแสเล็กน้อย

3. หลอดไฟและโคมไฟภายนอก

โคมไฟภายนอกที่ไม่มีระบบกันน้ำ อาจทำให้เกิดไฟรั่วหรือช็อตเมื่อโดนฝน ควรเลือกใช้โคมไฟกันน้ำมาตรฐาน IP65 ขึ้นไป พร้อมหลอดไฟ LED ที่เหมาะสำหรับภายนอกอาคาร

4. สวิตช์ไฟ/ปลั๊กในพื้นที่ชื้น เช่น ห้องน้ำหรือครัว

สวิตช์ในโซนชื้นควรเป็นแบบมีฝาครอบกันน้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้ความชื้นเข้าไปในระบบและทำให้เกิดสนิมหรือไฟรั่วในระยะยาว

5. ปั๊มน้ำและสายไฟรอบบ้าน

หน้าฝนคือช่วงที่ปั๊มน้ำต้องทำงานหนักกว่าปกติ หากระบบไฟที่เชื่อมต่อไม่ปลอดภัย อาจเกิดไฟช็อตได้ ควรเลือกใช้ปั๊มน้ำที่มีระบบตัดไฟอัตโนมัติ และเดินสายไฟใหม่ให้ปลอดภัย พร้อมรางร้อยสายกันน้ำ

ลงทุนหลักร้อย ป้องกันอันตรายหลักหมื่น

การดูแลระบบไฟฟ้าไม่ใช่แค่เรื่องเทคนิค แต่มันคือการดูแลชีวิตและทรัพย์สินของทุกคนในบ้าน การเปลี่ยนอุปกรณ์ไฟฟ้าที่เหมาะสมกับฤดูฝนจึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า

📍 หากคุณกำลังมองหาอุปกรณ์ไฟฟ้าคุณภาพสูง มาตรฐาน มอก. จากแบรนด์ชั้นนำ

เชิญแวะที่ ดำรงค์โฮมพลัส เลขที่ 136 หมู่ 21 ต.หัวขวาง อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม 44140 โทรศัพท์ 043-761599

✅ เรามีปลั๊กพ่วง เบรกเกอร์ โคมไฟ สวิตช์ และอุปกรณ์ไฟฟ้ากันน้ำ

✅ รับประกันสินค้าแท้ พร้อมคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ

✅ ครบ จบในที่เดียว ไม่ต้องวิ่งหาร้านหลายแห่ง

🔗 เลือกชมสินค้าพร้อมโปรโมชั่น ได้ที่ www.drhome.plus

แบรนด์สินค้าแนะนำ NANO electric / WELLUX / RACER / HI-TEK

เพราะความปลอดภัยในบ้าน…เริ่มต้นที่การเลือกใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ดี

.

บทความโดย ช่างโม เล่าเรื่องบ้าน

ทำไมเครื่องตัดหญ้า 2 จังหวะต้องใช้น้ำมัน 2T?

ในช่วงหน้าฝนหรือฤดูที่หญ้าขึ้นเร็วกว่าปกติ เครื่องตัดหญ้ากลายเป็นเครื่องมือคู่ใจของหลายบ้านและเกษตรกร แต่รู้หรือไม่ว่า เครื่องตัดหญ้าแบบ 2 จังหวะนั้น ไม่สามารถใช้น้ำมันเบนซินเพียงอย่างเดียวได้ จำเป็นต้องผสมน้ำมันอีกชนิดหนึ่งที่เรียกว่า น้ำมัน 2T เข้าไปด้วย

เครื่องยนต์แบบ 2 จังหวะ (2-Stroke Engine) เป็นเครื่องยนต์ขนาดเล็กที่ออกแบบให้มีน้ำหนักเบา ใช้งานง่าย สตาร์ตง่าย และให้แรงหมุนสูงในรอบเครื่องที่เร็ว เหมาะกับงานภาคสนามหรือสวนอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตาม เครื่องยนต์ประเภทนี้ไม่มีระบบน้ำมันเครื่องแยกต่างหากเหมือนเครื่องยนต์ 4 จังหวะ ทุกการเคลื่อนไหวของลูกสูบและชิ้นส่วนภายใน จึงต้องอาศัยน้ำมัน 2T เป็นตัวหล่อลื่น ซึ่งจะถูกผสมเข้าไปกับน้ำมันเบนซินในอัตราส่วนที่พอเหมาะ

น้ำมัน 2T มีหน้าที่ช่วยลดแรงเสียดทาน ลดความร้อน ป้องกันการสึกหรอของชิ้นส่วนสำคัญภายในเครื่องยนต์ เมื่อเผาไหม้ร่วมกับน้ำมันเบนซิน มันจะหายไปพร้อมกับไอเสีย ทำให้ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนถ่ายแบบน้ำมันเครื่องทั่วไป

หากผู้ใช้ละเลยไม่เติมน้ำมัน 2T ผลที่ตามมานั้นชัดเจนและรุนแรง — ลูกสูบอาจติด กระบอกสูบอาจเป็นรอย หรือในบางกรณีเครื่องยนต์อาจพังถาวรภายในไม่กี่นาที ซึ่งเท่ากับต้องเสียเงินซ่อมหรือซื้อใหม่อย่างไม่คุ้มค่าเลย

ดังนั้น ผู้ใช้งานควรศึกษาคู่มือของเครื่องตัดหญ้าแต่ละรุ่น เพื่อผสมน้ำมันเบนซินและน้ำมัน 2T ในอัตราส่วนที่ถูกต้อง เช่น 25:1 หรือ 40:1 โดยทั่วไปจะใช้น้ำมัน 2T ประมาณ 20–40 มิลลิลิตรต่อเบนซิน 1 ลิตร ควรผสมใหม่ทุกครั้งก่อนใช้งาน และไม่ควรเก็บน้ำมันที่ผสมไว้ข้ามคืน เพราะจะทำให้คุณภาพของน้ำมันลดลง

เลือกเครื่องตัดหญ้าให้เหมาะ เริ่มต้นอย่างมืออาชีพหากคุณกำลังมองหาเครื่องตัดหญ้า 2 จังหวะที่ทนทาน ใช้งานง่าย และคุ้มค่าในระยะยาว ดำรงค์โฮมพลัส ขอแนะนำเครื่องตัดหญ้าแบรนด์คุณภาพ ที่มาพร้อมบริการหลังการขาย และคำแนะนำในการดูแลเครื่องจากทีมผู้เชี่ยวชาญ

✅ มีให้เลือกทั้งเครื่องสะพายบ่า และเครื่องแบบล้อเข็น

✅ ใช้ร่วมกับน้ำมัน 2T ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

✅ แถมฟรีอุปกรณ์เบื้องต้น และคำแนะนำการผสมเชื้อเพลิงอย่างถูกต้อง

🔧 พร้อมให้คุณใช้งานทันที แม้ไม่เคยใช้เครื่องมาก่อน

🔗 ดูสินค้ารุ่นแนะนำเพิ่มเติมได้ที่: https://www.drhome.plus/search_results.php?query=เครื่องตัดหญ้า

Written by : Juy2-Stroke

บ้านสวย ทนฝน ไม่กลัวชื้น!

เมื่อเข้าสู่ฤดูฝน เจ้าของบ้านหลายคนอาจเริ่มกังวลเรื่อง “ผนังบ้านชื้น” สีลอก หรือเกิดคราบเชื้อราโดยไม่รู้ตัว ปัญหาเหล่านี้มักมาจากการเลือกใช้สีทาภายนอกที่ไม่มีคุณสมบัติกันน้ำอย่างเพียงพอ การลงทุนกับ “สีทาภายนอกชนิดกันฝน” จึงเป็นตัวช่วยสำคัญที่ช่วยให้บ้านของคุณคงความสวยและแข็งแรงได้ตลอดทั้งปี ไม่ว่าฝนจะตกหนักแค่ไหนก็ตาม

✅ คุณสมบัติของ “สีทาภายนอกกันฝน” ที่ดี

สีทาภายนอกที่เหมาะกับฤดูฝนควรมีคุณสมบัติเหล่านี้:

• กันน้ำซึมเข้าผนัง ป้องกันคราบชื้นและเชื้อราไม่ให้สะสมในโครงสร้างบ้าน
• ฟิล์มสีเหนียวและยืดหยุ่นสูง ช่วยให้ทนต่อการขยายตัวและหดตัวของพื้นผิวผนังจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง
• ทนแดด ทนฝน ป้องกันสีซีดจาง สีคงทนยาวนานยิ่งขึ้น
• แห้งเร็วแม้ในที่ชื้น เหมาะสำหรับสภาพอากาศในช่วงหน้าฝนที่ไม่สามารถควบคุมได้
• ทำความสะอาดตัวเอง (Self-Cleaning) ลดคราบสกปรกจากฝุ่นและฝนกรด ทำให้ผนังดูใหม่อยู่เสมอ

🎯 เลือกสีแบบไหนดี? หากคุณกำลังตัดสินใจเลือกสีสำหรับทาภายนอกบ้านในช่วงหน้าฝน ต่อไปนี้คือประเภทของสีที่เหมาะสม:

1. สีอะคริลิก 100% ชนิดกันน้ำ

เหมาะสำหรับบ้านทั่วไป ใช้ได้ทั้งผนังปูนและคอนกรีต ฟิล์มสีเนียนเรียบ ป้องกันน้ำซึมได้ดี

แบรนด์ยอดนิยม: TOA Shield-1, Jotun Jotashield, Nippon Weatherbond

2. สีทากันรั่วชนิดยืดหยุ่นสูง (Elastic Paint) เหมาะสำหรับบ้านที่ผนังมีรอยแตกลายงาเล็กๆ สีชนิดนี้จะเคลือบพื้นผิวคล้ายยาง ช่วยอุดรอยรั่วได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3. สีสะท้อนความร้อน + กันฝน สำหรับบ้านที่ต้องการทั้งการลดความร้อนในฤดูร้อน และป้องกันความชื้นในฤดูฝน สีประเภทนี้เป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและอเนกประสงค์

🖌️ วิธีทาสีกันฝนให้ได้ผลดีที่สุด เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดจากสีทาภายนอกกันฝน ควรปฏิบัติตามขั้นตอนเหล่านี้:

ล้างคราบสกปรกและเชื้อราออกให้หมดก่อน

ทารองพื้นปูนเก่าหรือรองพื้นกันซึม

ทาสีจริงอย่างน้อย 2 รอบ

ควรเลือกวันที่อากาศแห้ง และหลีกเลี่ยงฝนตกใน 4–6 ชั่วโมงหลังการทา

🛒 มองหาสีทาภายนอกคุณภาพ พร้อมคำแนะนำ? ศูนย์การค้าดำรงค์โฮมพลัส เรามีสีทาภายนอกหลากหลายแบบให้เลือก พร้อมอุปกรณ์ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น:

• สีทาภายนอกกันฝน
• สีสะท้อนความร้อน
• อุปกรณ์ทาสีครบชุด

💡 แบรนด์ชั้นนำที่เราจำหน่าย: TOA, Beger, Nippon

👷 พร้อมทีมแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่เข้าใจทุกสภาพผนัง

🔗 ดูสินค้าสีภายนอกเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.drhome.plus

.

บทความโดย —ช่างโม เล่าเรื่องบ้าน

💧 วิธีเลือกปั๊มน้ำสำหรับระบายน้ำขังช่วงฝนตกหนัก เหมาะสำหรับเจ้าของบ้าน ผู้รับเหมา หรือเกษตรกรที่ต้องรับมือกับปัญหาน้ำท่วมขังในช่วงฤดูฝน

🌧 ทำไมน้ำขังถึงเป็นปัญหาใหญ่?

น้ำฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่องอาจทำให้เกิดน้ำท่วมขังรอบบ้าน โรงจอดรถ หรือพื้นที่เกษตร หากไม่มีระบบระบายน้ำที่ดี จะเกิดปัญหา:

• ดินรอบบ้านทรุดตัว
• พื้นเปียกตลอดเวลา เกิดตะไคร่น้ำและเชื้อรา
• เครื่องใช้ไฟฟ้าและเฟอร์นิเจอร์เสียหาย
• บ้านมีกลิ่นอับและชื้น

⚙️ วิธีเลือกปั๊มน้ำให้เหมาะกับการระบายน้ำขัง

✅ 1. เลือก “ประเภทปั๊ม” ให้เหมาะกับหน้างาน

ประเภทปั๊ม เหมาะสำหรับ จุดเด่น ปั๊มจุ่ม (Submersible Pump) ระบายน้ำขังในหลุม, บ่อ, พื้นต่ำ ทนทาน ติดตั้งง่าย แช่ใต้น้ำได้ ปั๊มแช่ (Drain Pump) พื้นบ้าน น้ำขังโรงจอดรถ มีขนาดเล็ก เคลื่อนย้ายง่าย ปั๊มไดโว่ (Submersible Dirty Water Pump) น้ำสกปรก มีเศษดิน/ใบไม้ ดูดน้ำได้แม้มีสิ่งปนเปื้อน|

✅ 2. เช็ก “อัตราการไหล” (Flow Rate)

• หน่วยวัด: ลิตร/นาที หรือ ลิตร/ชั่วโมง
• ยิ่งพื้นที่ใหญ่ ยิ่งต้องใช้ปั๊มที่ดูดน้ำเร็ว
• แนะนำ: เลือกปั๊มที่มีอัตราการไหล 1,500–6,000 ลิตร/ชม. สำหรับบ้านทั่วไป

✅ 3. ดู “ความสูงส่งน้ำ” (Head)

• หากต้องส่งน้ำขึ้นที่สูง เช่น ระบายขึ้นท่อ หรือถัง ควรเช็กว่า Head สูงพอหรือไม่
• หากส่งน้ำออกแนวราบ ไม่จำเป็นต้องสูงมาก

✅ 4. ควรมี “ระบบตัดไฟอัตโนมัติ” และ “กรองสิ่งสกปรก”

• เพื่อความปลอดภัย และยืดอายุปั๊ม
• รุ่นที่มี ลูกลอยอัตโนมัติ จะตัดการทำงานเมื่อระดับน้ำลด

✅ 5. วัสดุและแบรนด์ที่เชื่อถือได้

• ควรเลือกวัสดุ สแตนเลสหรือพลาสติก ABS ที่ไม่เป็นสนิม
• แบรนด์แนะนำ: HITACHI, MITSUBISHI, TSURUMI, LEO, ปั๊มจีนเกรด A

🛠 ตัวอย่างการใช้งานจริง

บ้านที่มีน้ำขังรอบฐาน: ใช้ ปั๊มจุ่มอัตโนมัติ วางในจุดที่น้ำขัง เมื่อน้ำสูงจะทำงานเอง และส่งน้ำออกนอกบ้านโกดังหรือฟาร์มเกษตร: ใช้ ปั๊มไดโว่ เพราะสามารถดูดน้ำที่มีเศษใบไม้ ดินโคลนได้ดี

📌 สรุป: เลือกให้ถูก ใช้งานให้คุ้ม

“เลือกปั๊มน้ำไม่ใช่แค่ดูราคา ต้องดูความเหมาะสมกับพื้นที่ ความแรงของน้ำ และความปลอดภัยด้วย”

🛒 สนใจปั๊มน้ำคุณภาพ พร้อมคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ?

แวะมาที่ ดำรงค์โฮมพลัส

เรามีทั้ง:

• ปั๊มจุ่ม ปั๊มไดโว่ ปั๊มน้ำบ้าน
• สินค้ารับประกันแท้
• พร้อมบริการแนะนำติดตั้ง

🔗 ดูสินค้าเพิ่มเติม: www.drhome.plus

.

บทความโดย — ช่างโม เล่าเรื่องบ้าน

5 จุดเสี่ยงในบ้านที่มักรั่วซึมช่วงหน้าฝน และวิธีแก้ไขง่ายๆ ด้วยตัวเอง ทำไมฤดูฝนจึงเป็นศัตรูตัวฉกาจของบ้าน?เมื่อฝนตกหนักต่อเนื่อง ความชื้นและน้ำฝนมักจะแทรกซึมเข้าสู่ตัวบ้านตาม “จุดอ่อน” ต่างๆ โดยเฉพาะบ้านที่มีอายุการใช้งานหลายปี หรือบ้านที่ยังไม่ได้ตรวจสอบและซ่อมแซมก่อนเข้าหน้าฝน เพื่อป้องกันความเสียหายและค่าใช้จ่ายที่บานปลาย เราควรตรวจเช็ก 5 จุดเสี่ยงต่อไปนี้เป็นพิเศษ

✅ 1. หลังคาและรอยต่อสันหลังคา

ปัญหา: น้ำรั่วจากหลังคาเป็นสาเหตุอันดับ 1 โดยเฉพาะบริเวณรอยต่อแผ่นเมทัลชีท, กระเบื้องร้าว หรือสกรูขึ้นสนิมแนวทางแก้ไข:

• ตรวจสอบรอยแตกร้าวและใช้ ซิลิโคนกันซึมชนิดทนแดด หรือ สีอะคริลิกกันซึม
• เปลี่ยนสกรูเป็นรุ่นหัวสกรูมีแหวนยางป้องกันน้ำ

สินค้าแนะนำ

• ซิลิโคน TOA Sealant Pro
• สีกันซึม TOA 201 Roofseal
• สกรูปลายสว่านพร้อมแหวนยาง

✅ 2. รางน้ำฝนและท่อน้ำลง

ปัญหา: น้ำล้นจากรางน้ำฝนที่อุดตันด้วยใบไม้ หรือรางน้ำชำรุด ทำให้น้ำไหลย้อนเข้าฝ้าและผนังแนวทางแก้ไข:

• ทำความสะอาดรางน้ำเดือนละครั้ง
• ติดตั้ง ตะแกรงกันใบไม้ และ ท่อน้ำลง PVC อย่างเหมาะสม

สินค้าแนะนำ:

• รางน้ำฝนอลูมิเนียม / PVC
• ตะแกรงกรองเศษใบไม้
• ข้อต่อท่อน้ำ PVC

✅ 3. ขอบหน้าต่างและวงกบประตู

ปัญหา: น้ำซึมตามรอยต่อของวงกบไม้หรืออะลูมิเนียม โดยเฉพาะด้านที่รับฝนสาดบ่อยแนวทางแก้ไข:

• อุดรอยรั่วด้วย ซิลิโคนใสชนิดกันน้ำ
• ติดตั้ง กันสาด เพิ่มป้องกันฝนสาด

สินค้าแนะนำ:

• ซิลิโคนใส Beger หรือ V-Tech
• กันสาดสำเร็จรูปโพลีคาร์บอเนต

✅ 4. พื้นห้องน้ำและระเบียง

ปัญหา: น้ำซึมจากพื้นไม่สามารถระบายได้ทัน รั่วซึมลงสู่ชั้นล่างหรือผนังติดพื้นแนวทางแก้ไข:

• ทาซีเมนต์กันซึมชนิดยืดหยุ่น (ก่อนปูกระเบื้อง)
• ซ่อมรอยร้าวด้วยกาวซีเมนต์กันน้ำ

สินค้าแนะนำ:

• Dr.Fixit / Sika / Jorakay กันซึม
• กาวซีเมนต์ จระเข้ เขียว / Weber

✅ 5. พื้นดินรอบบ้านหรือโรงรถ

ปัญหา: น้ำฝนขังรอบฐานบ้าน ทำให้ดินยุบ รากฐานชื้น เกิดเชื้อรา และน้ำไหลย้อนเข้าบ้านแนวทางแก้ไข:

• ปรับระดับดินรอบบ้านให้สูงกว่าระดับพื้น
• วางท่อระบายน้ำฝังใต้ดิน / ใช้แผ่นกันชื้น

สินค้าแนะนำ:

• ท่อระบายน้ำ PVC
• หินรองพื้น + ตะแกรงระบายน้ำ

🎯 สรุป: แก้ไขก่อนเสียหายหนัก!การตรวจสอบจุดเสี่ยงภายในบ้านก่อนฤดูฝนจะช่วยให้คุณประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย หากคุณกำลังมองหาอุปกรณ์ซ่อมแซมบ้านในช่วงหน้าฝน อย่าลืมแวะมาที่ ดำรงค์โฮมพลัส

✅ สินค้าครบ

✅ ราคาดี

✅ มีผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำ

🔗 https://www.drhome.plus/

บทความโดย — ช่างโม เล่าเรื่องบ้าน

วันวิสาขบูชา เป็นวันสำคัญของพุทธศาสนิกชนไทย สะท้อนถึงการทำความดี ละเว้นความชั่ว และพัฒนาจิตใจให้เจริญงอกงาม เช่นเดียวกับการดำเนินชีวิตในภาคการเกษตร ที่ต้องเริ่มต้นจากความตั้งใจดี มีการวางแผน และใช้เครื่องมือที่เหมาะสม

🌾 หลังฤดูเก็บเกี่ยว คือเวลาของการแปรรูปผลผลิต

สำหรับชาวนาหรือผู้ที่ปลูกข้าวเอง เครื่องสีข้าวถือเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยให้

• ประหยัดค่าใช้จ่ายจากการนำข้าวไปสีที่อื่น
• สามารถควบคุมคุณภาพข้าวสารได้เอง
• มีข้าวไว้บริโภคในครัวเรือนหรือแบ่งขายได้ทันที

✨ ที่ ดำรงค์โฮมพลัส เรามี เครื่องสีข้าวหลากหลายรุ่น ทั้งขนาดเล็กสำหรับครัวเรือน และขนาดกลางสำหรับแปรรูปในชุมชน เช่น

• เครื่องสีข้าว 2 หัวสี พร้อมระบบคัดแยก
• เครื่องสีข้าวพร้อมตะแกรงร่อนอัตโนมัติ
• เครื่องสีข้าวระบบลดความร้อน สีข้าวได้เนียน ข้าวไม่แตก

🎉 โปรโมชั่นพิเศษช่วงวันวิสาขบูชา https://www.drhome.plus/search_results.php?query=เครื่องสีข้าว

📌 รับส่วนลดพิเศษ + แถมอะไหล่หรือชุดกรองฝุ่น (ตามรุ่นที่ร่วมรายการ)

📌 บริการจัดส่งฟรีในพื้นที่ใกล้เคียง

🙏 เนื่องในวันวิสาขบูชา

ขอให้ทุกท่านมีแต่ความสุข ความสงบ และความเจริญในชีวิต

📍 ศูนย์การค้าดำรงค์โฮมพลัส

เลขที่ 136 หมู่ 21 ต.หัวขวาง อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม 44140

📞 โทร: 043-761599

🕗 เปิดบริการทุกวัน 8:00 - 17:00 น.

เขียนโดย โบกลางกุลา

วันพืชมงคล 2568 พระโคกินน้ำ หญ้า เหล้า

วันพืชมงคล ถือเป็นวันมงคลที่ชาวเกษตรกรไทยให้ความสำคัญ เป็นจุดเริ่มต้นของฤดูเพาะปลูกอย่างเป็นทางการ และยังเป็นช่วงเวลาที่ดีในการเตรียมความพร้อมด้านเครื่องมือและอุปกรณ์ให้พร้อมสำหรับผลผลิตที่งอกงามในปีนี้ เพราะการเพาะปลูกในยุคปัจจุบันไม่ใช่แค่การลงแรง แต่เป็นการวางแผนและเลือกใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสมกับงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ประหยัดเวลา และลดต้นทุนในการทำเกษตรให้ได้มากที่สุด

🛠️ อุปกรณ์ที่ควรเตรียมให้พร้อมในช่วงต้นฤดูปลูก ได้แก่

• ปั๊มน้ำ: สำหรับสูบน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติหรือถังเก็บน้ำให้ไหลเข้าสู่แปลงเพาะปลูก
• ถังเก็บน้ำ: ใช้สำหรับเก็บน้ำในฤดูแล้ง หรือรองรับระบบน้ำหยด
• รถพรวนดิน: ช่วยพรวนหน้าดินให้ร่วนซุย สะดวก ประหยัดแรงงาน
• เครื่องพ่นยาและปุ๋ย: ป้องกันโรคพืช แมลง และเพิ่มธาตุอาหารให้พืชเติบโตอย่างสมบูรณ์

🌟 อย่าลืมตรวจสอบสภาพเครื่องมือก่อนใช้งาน

ถ้าชำรุดหรือเริ่มเสื่อมสภาพ การเปลี่ยนใหม่หรือซ่อมก่อนเริ่มฤดูปลูกจะช่วยลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในภายหลังได้

ที่ ดำรงค์โฮมพลัส เรารวบรวมอุปกรณ์เกษตรทุกประเภทไว้ให้คุณครบจบในที่เดียว พร้อมทีมงานแนะนำการใช้งานอย่างมืออาชีพ

🎉 โปรโมชั่นพิเศษวันนี้! https://www.drhome.plus/

📍 แวะมาที่ร้านได้เลย!

ดำรงค์โฮมพลัส เลขที่ 136 หมู่ 21 ต.หัวขวาง อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม 44140

📞 โทร: 043-761599 🕗 เปิดทุกวัน เวลา 8:00 - 17:00 น.

เพราะฤดูเพาะปลูกที่ดี เริ่มต้นจากการเตรียมตัวที่พร้อม 

วิธีเลือกแอร์ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์: แอร์อินเวอร์เตอร์ vs แอร์ Fixed Speed แบบไหนใช่สำหรับคุณ?

การเลือกเครื่องปรับอากาศในยุคนี้ ไม่ใช่แค่เรื่อง "เย็นหรือไม่เย็น" แต่เกี่ยวข้องกับไลฟ์สไตล์ การใช้พลังงาน ค่าไฟ และสุขภาพของคนในบ้านอย่างแท้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีตัวเลือกหลัก 2 แบบที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนอย่าง “แอร์อินเวอร์เตอร์” กับ “แอร์ Fixed Speed (แอร์ธรรมดา)” บทความนี้จะพาคุณวิเคราะห์ลึกว่า แบบไหนตอบโจทย์คุณมากที่สุด

🔹 แอร์อินเวอร์เตอร์: สำหรับคนที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตและความคุ้มค่าระยะยาว

ใครคือกลุ่มเป้าหมายของแอร์อินเวอร์เตอร์?

• คนวัยทำงาน อายุ 28-55 ปี ที่มีรายได้ปานกลางขึ้นไป
• เจ้าของบ้าน คอนโด หรืออพาร์ตเมนต์ ที่ต้องการลงทุนกับอุปกรณ์ที่ใช้ได้นาน
• ผู้ที่ใส่ใจเรื่อง “ค่าไฟ-สุขภาพ-ความเงียบ”

จุดเด่นของแอร์อินเวอร์เตอร์

✅ ประหยัดไฟในระยะยาว

✅ ทำความเย็นเร็ว คงที่ และเงียบ

✅ มีฟังก์ชันเสริมเช่น ฟอกอากาศ กำจัดกลิ่น และควบคุมความชื้น

✅ ดีไซน์สวย ทนทาน ใช้งานได้นาน

✅ บริการหลังการขายดี มีความน่าเชื่อถือจากแบรนด์ชั้นนำ

จุดเด่นของแอร์ Fixed Speed

✅ ราคาประหยัด ติดตั้งง่าย

✅ เย็นเร็วภายในไม่กี่นาที

✅ เหมาะกับห้องขนาดเล็ก หรือใช้งานไม่บ่อย

✅ ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน

ข้อควรพิจารณา

❌ ค่าไฟอาจสูงกว่าแอร์อินเวอร์เตอร์

❌ เสียงอาจดังเมื่อเปิดใช้งานนาน

❌ อายุการใช้งานสั้นกว่าแบบอินเวอร์เตอร์เล็กน้อย

แล้วแบบไหนเหมาะกับคุณ?

ประเภท เหมาะกับใคร จุดเด่น ราคาเริ่มต้น แอร์อินเวอร์เตอร์ บ้านอยู่อาศัย, คอนโดใหม่, คนใช้แอร์ทุกวัน ประหยัดไฟ, เงียบ, ฟังก์ชันครบ 13,000 - 25,000 บาท / แอร์ Fixed Speed ห้องเช่า, หอพัก, ห้องเล็ก, งบจำกัด ราคาถูก เย็นเร็ว 8,000 - 15,000 บาท

❄️ โปรโมชั่นแอร์ราคาพิเศษ พร้อมติดตั้ง! ❄️

ถ้าคุณกำลังมองหาแอร์คุณภาพดีในราคาคุ้มค่า ดำรงค์โฮมพลัสเรามีแอร์ทั้ง แบบอินเวอร์เตอร์ และ Fixed Speed จากแบรนด์ชั้นนำ เช่น Mitsubishi, LG ,Samsung,Midea , AUX,HAIER , HITACHI https://drhome.plus/search_results.php?query=แอร์

📦 ทุกเครื่อง รับประกันคอมเพรสเซอร์

🛠 พร้อมบริการติดตั้ง โดยช่างมืออาชีพ

👉 ทักแชทเพื่อขอใบเสนอราคาหรือสอบถามรุ่นที่เหมาะกับห้องของคุณได้เลย

📞 หรือโทรหาเราที่ 043-761599 เปิดบริการทุกวัน 08.00-17.00 น. ดำรงค์โฮมโฮมพลัส โกสุุมพิสัย มหาสารคาม

บทความโดย — ช่างโม เล่าเรื่องบ้าน