กระเบื้องแกรนิตโต้ (Granito Tiles) คือ หนึ่งในวัสดุปูพื้นที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในปัจจุบัน ด้วยความแข็งแรงทนทานและรูปลักษณ์ที่สวยงาม แต่หลายคนอาจยังสับสนว่ากระเบื้องชนิดนี้คืออะไร และแตกต่างจากกระเบื้องประเภทอื่นอย่างไร บทความนี้จะเจาะลึกทุกข้อสงสัย เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจและเลือกใช้กระเบื้องแกรนิตโต้ได้อย่างถูกต้องและคุ้มค่าที่สุด
แกรนิตโต้ คืออะไร? ทำไมถึงไม่ใช่หินแกรนิตธรรมชาติ
หลายคนมักเข้าใจผิดว่ากระเบื้องแกรนิตโต้คือหินแกรนิตธรรมชาติที่นำมาตัดเป็นแผ่น แท้จริงแล้ว "แกรนิตโต้" เป็นชื่อเรียกทางการค้าของ กระเบื้องพอร์ซเลน (Porcelain Tiles) ชนิดหนึ่ง ซึ่งถูกผลิตขึ้นโดยเลียนแบบลวดลายของหินแกรนิตธรรมชาติ
ส่วนประกอบและกรรมวิธีการผลิต
- • วัตถุดิบ: กระเบื้องแกรนิตโต้ผลิตจากผงหินแกรนิตและดินขาวพอร์ซเลน (Porcelain Clay) ที่นำมาผสมเข้าด้วยกัน
- • การอัดขึ้นรูป: นำส่วนผสมมาอัดขึ้นรูปด้วยแรงดันสูงมาก ทำให้เนื้อกระเบื้องมีความหนาแน่นเป็นพิเศษ
- • การเผา: นำไปเผาด้วยอุณหภูมิที่สูงกว่า 1,200 องศาเซลเซียส ซึ่งสูงกว่าการเผากระเบื้องเซรามิกทั่วไปมาก กระบวนการนี้ทำให้เนื้อกระเบื้องแกรนิตโต้หลอมรวมกันเป็นเนื้อเดียวกันตลอดทั้งแผ่น
ด้วยกรรมวิธีเหล่านี้ จึงทำให้กระเบื้องแกรนิตโต้มีคุณสมบัติที่โดดเด่นเหนือกว่ากระเบื้องเซรามิกทั่วไป และแตกต่างจากหินแกรนิตธรรมชาติซึ่งเป็นหินที่ถูกสกัดมาจากแหล่งกำเนิดโดยตรง
คุณสมบัติเด่นของกระเบื้องแกรนิตโต้ที่ควรรู้
กระเบื้องแกรนิตโต้ได้รับการยอมรับว่าเป็นวัสดุที่เหมาะสำหรับปูพื้นในพื้นที่ที่ต้องการความทนทานสูง เนื่องจากคุณสมบัติที่เหนือกว่ากระเบื้องชนิดอื่น ๆ ดังนี้:
- • ความแข็งแกร่งทนทาน: มีความทนทานต่อแรงกระแทกและรอยขีดข่วนได้ดีเยี่ยม ไม่แตกหักง่าย
- • อัตราการดูดซึมน้ำต่ำมาก: มีค่าการดูดซึมน้ำต่ำกว่า 0.5% ทำให้ไม่สะสมความชื้น และไม่เกิดคราบด่างดำจากความชื้น
- • เนื้อเดียวกันตลอดทั้งแผ่น: เนื่องจากกรรมวิธีการผลิตทำให้เนื้อสีและลวดลายเป็นเนื้อเดียวกันตั้งแต่ผิวหน้าไปจนถึงด้านใน หากเกิดการบิ่นหรือรอยขีดข่วนจะไม่เห็นเนื้อในที่แตกต่างออกไป
- • ทำความสะอาดง่าย: ผิวหน้ามีความเรียบเนียน ไม่เก็บฝุ่นหรือสิ่งสกปรก จึงดูแลรักษาง่าย
กระเบื้องแกรนิตโต้ vs. กระเบื้องชนิดอื่น: ข้อแตกต่างที่สำคัญ
เพื่อให้เข้าใจถึงความโดดเด่นของกระเบื้องแกรนิตโต้ได้ดียิ่งขึ้น ควรพิจารณาเปรียบเทียบกับกระเบื้องยอดนิยมชนิดอื่น ๆ อย่าง กระเบื้องเซรามิก และ กระเบื้องพอร์ซเลน ซึ่งมีข้อแตกต่างที่สำคัญในด้านคุณสมบัติและกรรมวิธีการผลิต
1. ส่วนประกอบและเนื้อกระเบื้อง
กระเบื้องเซรามิก ผลิตจากดินเหนียวและทรายเป็นหลัก แล้วนำไปเผาและเคลือบผิวหน้า ทำให้เนื้อกระเบื้องมีชั้นเคลือบผิวแยกจากเนื้อด้านในอย่างชัดเจน ในทางกลับกัน กระเบื้องแกรนิตโต้ ซึ่งเป็นกระเบื้องชนิดหนึ่งของ กระเบื้องพอร์ซเลน ผลิตจากส่วนผสมของผงหินแกรนิตและดินขาวพอร์ซเลนคุณภาพสูง แล้วนำไปผ่านกระบวนการอัดและเผาด้วยอุณหภูมิที่สูงกว่ามาก ทำให้มีเนื้อเดียวกันตลอดทั้งแผ่น ข้อดีคือหากเกิดรอยบิ่นหรือรอยขีดข่วน จะไม่เห็นเนื้อในที่แตกต่างจากผิวหน้า
2. ความแข็งแรงและการดูดซึมน้ำ
ด้วยกรรมวิธีผลิตที่แตกต่างกัน ทำให้กระเบื้องแต่ละชนิดมีคุณสมบัติที่ต่างกันอย่างเห็นได้ชัด กระเบื้องเซรามิก มีความแข็งแรงต่ำที่สุดและมีอัตราการดูดซึมน้ำสูงกว่า 3% จึงเหมาะกับการใช้งานในพื้นที่ที่ไม่มีความชื้นสูงและมีปริมาณการสัญจรน้อย เช่น การปูผนัง ในขณะที่ กระเบื้องแกรนิตโต้ และ กระเบื้องพอร์ซเลน มีความแข็งแรงทนทานสูงมาก ทนต่อแรงกระแทกและรอยขีดข่วนได้ดีเยี่ยม และมีอัตราการดูดซึมน้ำต่ำกว่า 0.5% ทำให้ทนทานต่อความชื้น ไม่เกิดคราบด่างดำ จึงสามารถใช้ได้ทั้งพื้นที่ภายในและภายนอกอาคารที่มีการสัญจรสูงได้เป็นอย่างดี
3. การใช้งาน
เนื่องจากคุณสมบัติที่แตกต่างกัน การใช้งานจึงมีความเหมาะสมต่างกัน กระเบื้องเซรามิก ส่วนใหญ่นิยมใช้สำหรับปูผนังหรือพื้นภายในอาคารที่ไม่ต้องรับน้ำหนักมากนัก เช่น ห้องนอนหรือห้องรับแขก กระเบื้องแกรนิตโต้ และ กระเบื้องพอร์ซเลน เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับพื้นที่ที่ต้องการความทนทานสูงเป็นพิเศษ เช่น ห้องครัว ห้องน้ำ หรือแม้แต่พื้นที่กลางแจ้ง เนื่องจากสามารถรองรับการสัญจรหนักและทนต่อสภาพอากาศได้ดี
การเลือกซื้อกระเบื้องแกรนิตโต้ตามประเภทผิวหน้า
กระเบื้องแกรนิตโต้มีผิวหน้าให้เลือกหลากหลาย ขึ้นอยู่กับความต้องการใช้งานในแต่ละพื้นที่:
- • ผิวหน้าแบบมันเงา (Polished): ผ่านกระบวนการขัดผิวหน้าจนเงาวาวคล้ายกระจก ให้ความรู้สึกหรูหรา นิยมใช้ในห้องนั่งเล่นหรือโถงทางเดินที่ต้องการความโดดเด่น อย่างไรก็ตาม ผิวแบบนี้อาจลื่นได้ง่ายเมื่อเปียกน้ำ จึงไม่เหมาะกับห้องน้ำ
- • ผิวหน้าแบบด้าน (Matt/Unpolished): ไม่มีการขัดผิวหน้า ทำให้มีผิวสัมผัสที่หยาบเล็กน้อย มีคุณสมบัติกันลื่นได้ดีกว่าแบบมันเงา เหมาะสำหรับปูพื้นห้องน้ำ ห้องครัว หรือพื้นที่กลางแจ้งที่เสี่ยงต่อการเปียกน้ำ
- • ผิวหน้าแบบกึ่งมันกึ่งด้าน (Lappato): เป็นการผสมผสานระหว่างผิวหน้าแบบมันเงาและแบบด้าน ให้ความรู้สึกสวยงามและลดความลื่นได้ในระดับหนึ่ง
- • ผิวหน้าแบบกันลื่น (Anti-Slip): มีค่ากันลื่น (R-Value) ที่สูง เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ต้องการความปลอดภัยเป็นพิเศษ เช่น บริเวณรอบสระว่ายน้ำหรือทางเดินในสวน
การดูแลรักษาและข้อควรระวัง
การดูแลรักษากระเบื้องแกรนิตโต้เป็นเรื่องที่ง่ายและไม่ยุ่งยาก เพียงแค่ทำตามคำแนะนำดังต่อไปนี้ :
- • ทำความสะอาดประจำวัน: ใช้ไม้ถูพื้นหรือผ้าชุบน้ำสะอาดเช็ดทำความสะอาดได้ตามปกติ
- • คราบสกปรกทั่วไป: ใช้น้ำยาทำความสะอาดสำหรับกระเบื้องโดยเฉพาะ หรือน้ำยาล้างจานแบบเจือจางเพื่อเช็ดคราบเปื้อน
- • สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง: ไม่ควรใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีฤทธิ์กัดกร่อนรุนแรง เช่น กรดเกลือ หรือน้ำยาทำความสะอาดห้องน้ำที่มีความเข้มข้นสูง เพราะอาจทำให้ผิวหน้ากระเบื้องเสียหายได้
ด้วยคุณสมบัติที่ครบถ้วนทั้งด้านความสวยงาม ความแข็งแกร่ง และการดูแลที่ง่ายดาย ทำให้ กระเบื้องแกรนิตโต้ เป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ สำหรับการตกแต่งพื้นที่ที่ต้องการความคงทนและอายุการใช้งานที่ยาวนานครับ
📌 สอบถาม/สั่งซื้อสินค้าได้ที่:
🏪 ดำรงค์โฮมพลัส | โกสุมพิสัย มหาสารคาม
🌐 เว็บไซต์: www.drhome.plus
📱 LINE: https://lin.ee/owsFVCn
📞 โทร: 043-761-599 หรือ 043-761-855
🕗 เปิดทุกวัน 08.00 – 17.00 น.